สถานที่ชมใบไม้เปลี่ยนสี

น้ำตกฟุคิวาเระ มีความน่าทึ่งในทุกฤดูกาล แต่จะยิ่งงดงามขึ้นไปอีกในช่วงปลายเดือนตุลาคมถึงต้นเดือนพฤศจิกายน เมื่อผืนป่ารอบ ๆ น้ำตกสูง 7 เมตร กว้าง 30 เมตรแห่งนี้เปลี่ยนเป็นสีสันสดสว่างแห่งฤดูใบไม้ร่วง สถานที่ที่ดีที่สุดในการชมทัศนียภาพนี้คือชมจากพื้นหินข้างน้ำตก ที่ซึ่งคุณสามารถชมภาพความงามนี้ได้อย่างใกล้ชิด บนสะพานอุกิชิมะซึ่งเป็นสะพานแขวนเหนือหุบเขานี้ สามารถมองเห็นทิวทัศน์ของธรรมชาติโดยรอบ มองหารุ้งกินน้ำเหนือน้ำตกซึ่งช่วยเพิ่มสีสันให้กับภาพที่เห็นเบื้องหน้า

การเดินทางไปน้ำตกฟุคิวาเระ

วัดอันเงียบสงบแห่งนี้เป็นจุดถ่ายภาพที่ยอดเยี่ยมในฤดูใบไม้ร่วง สวนของที่นี่เต็มไปด้วยต้นเมเปิลกว่าร้อยต้น ซึ่งจะเปลี่ยนเป็นสีสันของฤดูใบไม้ร่วงอันสดใสในเดือนพฤศจิกายน ต้นไม้เหล่านี้จะงดงามอย่างที่สุดเมื่อมองจากวิหารหลัก ซึ่งสะท้อนภาพอยู่บนพื้นที่ขัดเงาอย่างดีราวกับกระจก วัดโฮโทคุจิ เป็นวัดพุทธนิกายเซ็นที่มีอายุย้อนไปถึงศตวรรษที่ 15

การเดินทางไปวัดโฮโทคุจิ

การเดินป่าข้ามพื้นที่ชุ่มน้ำที่ลาดเอียงของ พื้นที่ชุ่มน้ำโยชิงะไดระ ในช่วงต้นถึงกลางเดือนตุลาคมจะให้คุณได้พบผืนพรมหลากสีสัน พื้นที่ชุ่มน้ำจะปกคลุมไปด้วยต้นเบิร์ชซึ่งเปลี่ยนเป็นสีเหลืองทองอร่าม เฉดสีนี้ตัดกันกับเฉดสีแดงและส้มอันโดดเด่นของต้นเมเปิล ต้นบีช และต้นเกาลัดม้าที่พบได้ทั่วไปในญี่ปุ่น บึงน้ำและทุ่งหญ้าซึ่งมีภาพยอดภูเขาไฟคุซัตสึชิราเนะที่มีไอน้ำพวยพุ่งเป็นฉากหลังนั้นสร้างบรรยากาศที่ผ่อนคลายเนื่องจากผู้คนไม่พลุกพล่านเท่าจุดชมใบไม้เปลี่ยนสีที่มีชื่อเสียงหลายแห่งในญี่ปุ่น

สะพานคาจิกะ เป็นไฮไลต์ของเมืองเก่าแก่อย่าง อิคาโฮะ ออนเซ็น ต้นเมเปิลญี่ปุ่นขึ้นรายล้อมสะพานสีแดงสดซึ่งตั้งอยู่ใกล้เมืองแห่งนี้ ตั้งแต่ปลายเดือนตุลาคมถึงกลางเดือนพฤศจิกายน ใบไม้สีแดงเพลิงจะรังสรรค์ทัศนียภาพแบบญี่ปุ่นแท้ ๆ ต้นไม้จะได้รับการส่องไฟสว่างไสวในเวลากลางคืนเพื่อเพิ่มความโรแมนติกในช่วงฤดูกาลนี้

การเดินทางไปอิคาโฮะ

ชมใบไม้เปลี่ยนสีจากบนกระเช้าลอยฟ้า Tanigawadake ซึ่งจะพาคุณขึ้นไปที่ระดับความสูง 1,319 เมตรบน ภูเขาทานิงาวะ ผืนพรมต้นไม้หลากสีสันจะทอดตัวออกเบื้องล่างในช่วงกลางเดือนตุลาคม มุ่งหน้าไปยังหุบเขาอิจิโนะคุระซาวะ ซึ่งเป็นหุบเขารูปตัววีอันยิ่งใหญ่ตระการตาทางด้านทิศเหนือของภูเขา เพื่อไปยังจุดชมใบไม้เปลี่ยนสีที่เลื่องชื่ออีกแห่งหนึ่ง

การเดินทางไปทานิงาวะ

ยอดเขาพื้นผิวขรุขระ หน้าผา และแนวหินของ ภูเขาเมียวงิ ตั้งตระหง่านราวกับผลงานประติมากรรม ทิวทัศน์นี้จะยิ่งน่าทึ่งมากขึ้นไปอีกในช่วงต้นถึงกลางเดือนพฤศจิกายนเมื่อไหล่เขาปกคลุมไปด้วยใบไม้หลากสีสัน ภูเขาแห่งนี้แม้จะชมจากเชิงเขาก็ยังงดงามชวนตะลึง แต่วิธีชมทัศนียภาพนี้ให้งดงามที่สุดก็คือการปีนขึ้นไปบนเขา มีเส้นทางที่เหมาะกับทั้งผู้เริ่มต้นและนักปีนเขามากประสบการณ์

การเดินทางไปเมียวงิ

ริมฝั่งแม่น้ำอางัตสึมะเรียงรายไปด้วยป่าผลัดใบขึ้นหนาแน่น คุณสามารถเดินไปตามเส้นทางยาว 2.5 กิโลเมตร ผ่านแมกไม้และน้ำตกใน หุบเขาอางัตสึมะ ตั้งแต่ปลายเดือนตุลาคมถึงต้นเดือนพฤศจิกายน สีสันอันหลากหลายของป่าจะตัดกับโทนสีน้ำเงินเข้มของแม่น้ำ

หุบเขาทาคาสึโดะ สามารถชื่นชมได้เต็มอิ่มที่สุดจากบนสะพานฮาเนตากิ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อผืนป่าเปลี่ยนเป็นเฉดสีเขียวอ่อน เหลือง ส้ม และแดงอมน้ำตาลในช่วงต้นถึงปลายเดือนพฤศจิกายน เดินเล่นไปตามทางเดินยาว 500 เมตรที่ทอดยาวเลียบริมแม่น้ำวาตาราเซะเพื่อชมแนวหินก้อนใหญ่บนพื้นหินก้นแม่น้ำ

รถไฟย้อนยุคนี้วิ่งไปตาม เส้นทางชมทัศนียภาพ ที่เชื่อมต่อคิริวในกุนมะกับนิกโกในจังหวัดโทจิงิที่อยู่ใกล้เคียง การเดินทางที่ใช้เวลา 80 นาทีนี้วิ่งผ่านพื้นที่ชนบทอันงดงาม รวมถึงหุบเขาวาตาราเซะด้วยระยะทาง 44 กิโลเมตร เส้นทางนี้จะได้รับความนิยมเป็นพิเศษในฤดูใบไม้ร่วง ยามเมื่อใบไม้ตลอดเส้นทางเปลี่ยนเป็นสีสันหลากหลายทั้งสีส้ม สีเหลือง และสีแดง

ใบไม้เปลี่ยนสีตามทางรถไฟ Watarase Keikoku Railway เริ่มปรากฏให้เห็นรอบ ๆ สถานี Ashio ในโทจิงิช่วงปลายเดือนตุลาคม จากนั้นใช้เวลาอีกประมาณหนึ่งเดือนกว่าใบไม้รอบสถานี Omama จะเริ่มเปลี่ยนสี