มิกุนิไคโด: สำรวจทางหลวงสายเก่าแก่ของจังหวัดกุมมะ

มิกุนิไคโดเป็นเส้นทางที่ผู้นำทางการทหารนามว่า อุเอซูกิ เค็นชิน (ค.ศ. 1530-1578) ที่รู้จักในฐานะ "มังกรแห่งเอจิโกะ" ซึ่งมีปณิธานที่จะครอบครองภูมิภาคคันโต (รวมถึงโตเกียวในปัจจุบันและจังหวัดรอบ ๆ) ใช้ในการเดินทาง ต่อมาในสมัยเอโดะ มิกุนิไคโดเป็นเส้นทางหลักที่ไดเมียวแห่งเอจิโกะใช้เพื่อเดินทางไปยังเอโดะ รัฐบาลโชกุนโทกุงาวะได้กำหนดนโยบายการมารายงานตัวที่เอโดะเพื่อดำรงอำนาจควบคุมเหล่าไดเมียวทั้งหลาย ซึ่งไดเมียวจะต้องเดินทางจากแคว้นของตนไปยังเมืองหลวงเพื่อพำนักที่เมืองหลวงปีเว้นปี เมืองพักแรมกุมมะเป็นจุดแวะพักสำหรับเหล่าขุนนางขณะเดินทางไปยังเอโดะผ่านเมืองทาคาซากิ นอกจากนี้มิกุนิไคโดยังเชื่อมกับเส้นทางนากาเซ็นโด เส้นทางภูเขาเก่าแก่ระหว่างเอโดะกับเกียวโต

ตามทางหลวงสายเก่าแก่อย่าง มิกุนิไคโดและนากาเซ็นโด มีเมืองพักแรมสำหรับนักเดินทางที่เหนื่อยล้าเพื่อมาพักผ่อนและผ่อนคลาย พร้อมเติมพลังเพื่อเดินทางต่อไป เมืองพักแรมเหล่านี้มีร้านค้าสำหรับการเติมเสบียง โรงน้ำชา ที่พัก และบ่อน้ำพุร้อนที่มีคุณสมบัติในการฟื้นคืนความกระปรี้กระเปร่าที่จะช่วยบรรเทาความปวดเมื่อยและชะล้างสิ่งสกปรกจากการเดินทางเป็นเวลานาน

หนึ่งในเมืองพักแรมในเส้นทางมิกุนิไคโดคือ นางาอิจูกุ ใน มินาคามิ ที่นี่เป็นเมืองพักแรมแห่งแรกที่ตั้งอยู่ทางด้านโจชู (กุมมะ) ของมิกุนิโทเกะ ส่วนหนึ่งของเส้นทางที่ทุรกันดารอย่างมาก ในสมัยศตวรรษที่ 17 เมืองนี้ได้พัฒนาเป็นเมืองค้าข้าวที่เฟื่องฟูจนกระทั่งทางรถไฟโจเอ็ตสึถูกสร้างขึ้นผ่านเมืองนี้ในศตวรรษที่ 19

แม้ว่าเมืองพักแรมดั้งเดิมจะหลงเหลืออยู่ไม่มากนัก แต่ก็ยังมีบ้านแถวแบบดั้งเดิมเหลืออยู่ซึ่งบ่งบอกความเป็นถนนสายเก่าแก่ได้อย่างดี ผู้มาเยือนสามารถแวะมาที่พิพิธภัณฑ์พื้นบ้านนางาอิจูกุเพื่อชมบันทึกและวัตถุทางประวัติศาสตร์ รวมถึงชุดเกราะซามูไรที่ถูกสร้างขึ้นในสมัยศตวรรษที่ 16 (คำอธิบายมีเฉพาะภาษาญี่ปุ่น) เดินเป็นระยะทางสั้น ๆ จากเมือง จะได้พบกับศาลเจ้ามิซากะซันฉะที่ตั้งอยู่บนพรมแดนระหว่างโจชูและเอจิโกะ และเป็นจุดที่สูงที่สุดบนเส้นทางมิกุนิไคโด

โฮชิอนเซ็น โชจูคัง เป็นเรียวกังและอนเซ็นแบบดั้งเดิมที่มีประวัติศาสตร์มากกว่าร้อยปี บ่อน้ำพุร้อนอันเงียบสงบและจุดแวะพักยอดนิยมในเส้นทางมิกุนิไคโดนี้ได้รับเลือกให้เป็นทรัพย์สินทางวัฒนธรรมที่จับต้องได้แห่งชาติซึ่งตั้งอยู่ท่ามกลางป่าสนซีดาร์ น้ำพุร้อนของโฮชิอนเซ็นถูกค้นพบเมื่อกว่า 1,200 ปีก่อน อุดมไปด้วยแคลเซียมและโซเดียมซัลเฟต ซึ่งเหมาะอย่างยิ่งในการบรรเทาความเมื่อยล้าของกล้ามเนื้อ ตัวอาคารหลักของโรงแรมสร้างขึ้นเมื่อปี 1875 และมีลักษณะคล้ายกับโรงแรมของเมืองพักแรมในสมัยเอโดะ โรงอาบน้ำเก่าแก่สามแห่งนี้ยังรวมถึง โฮชิโนะยุ โรงอาบน้ำอันงดงามซึ่งมีเพดานสูงทำจากไม้สนซีดาร์ และทามากิโนะยุ ที่มีบ่อน้ำพุร้อนทั้งในร่มและกลางแจ้งริมฝั่งแม่น้ำโฮชิ

การเดินทางไปโฮชิ ออนเซ็น

ซารุงะเคียวอนเซ็น รุ่งเรืองในสมัยเอโดะในฐานะเมืองพักแรมและด่านตรวจนักเดินทาง ด่านซารุงะเคียวถูกสร้างขึ้นในสมัยศตวรรษที่ 17 เพื่อป้องกันการนำอาวุธเข้ามาในเอโดะ และเพื่อป้องกันไม่ให้คนในตระกูลไดเมียวที่ถูกจับเป็นตัวประกันในเอโดะหนีกลับเมืองบ้านเกิดได้ ซารุงะเคียวอนเซ็นตั้งอยู่บริเวณริมฝั่งทะเลสาบอาคายะ มีที่พักหลากหลาย ซึ่งหลายแห่งมีวิวทะเลสาบและอนเซ็นกลางแจ้ง หากอยากชมวิวของพื้นที่ในมุมที่แปลกตา แนะนำให้ลอง กระโดดบันจีจัมป์ เหนือหุบเขาซารุงะเคียวที่ดำเนินการโดย Bungy Japan

ทาคุมิโนะซาโตะ เป็นสถานที่ที่ยอดเยี่ยมสำหรับเป็นจุดสิ้นสุดการสำรวจมิกุนิไคโดแบบสบาย ๆ ไม่เร่งรีบ เมืองเปี่ยมเสน่ห์นี้เป็นอดีตเมืองพักแรมซุคาวะจูกุ คลองชลประทานไหลเลียบถนนสายหลักผ่านบ้านพื้นเมืองดั้งเดิมและกังหันน้ำที่มีเสน่ห์ ปัจจุบันบ้านบางหลังถูกใช้เป็นร้านอาหาร คาเฟ่ และเวิร์กช็อปงานฝีมือ พิพิธภัณฑ์ซุคาวะจูกุที่อยู่ใกล้กันจัดแสดงเอกสารและวัตถุโบราณที่เกี่ยวข้องกับขุนนางไดเมียวที่เคยเดินทางผ่านเส้นทางมิกุนิไคโด สถานที่ที่เป็นพิพิธภัณฑ์นี้ครั้งหนึ่งเคยเป็นที่พักแรมสำหรับไดเมียว

ผู้มาเยือนทาคุมิโนะซาโตะสามารถลองทำงานฝีมือดั้งเดิม ตั้งแต่งานฝีมือจากไม้และไม้ไผ่ การกัดลายแก้ว และการย้อมคราม ไปจนถึงการทำกระดาษวาชิ และแม้กระทั่งเส้นโซบะ เวิร์กช็อปงานฝีมือแต่ละแห่งตั้งอยู่ใกล้กันในระยะเดินได้ ทำให้สามารถใช้เวลาหนึ่งวันในการเที่ยวชมเวิร์กช็อปต่าง ๆ เพื่อลองสัมผัสประสบการณ์ใหม่ ๆ

วัดไทเนจิ มีโครงสร้างอาคารที่น่าประทับใจซุกซ่อนอยู่ท่ามกลางแมกไม้ ตั้งอยู่ห่างจากถนนหลักของทาคุมิโนะซาโตะ 15 นาทีโดยการเดินเท้า ทรัพย์สินทางวัฒนธรรมที่สำคัญนี้มีชื่อเสียงจากไฮเดรนเยียราว 2,000 ต้นที่จะบานในช่วงต้นฤดูร้อน อาคารหลักของวัดถูกสร้างขึ้นในปี 1309 และมีงานแกะสลักที่แสดงถึงความชำนาญซึ่งได้แรงบันดาลใจมาจากคำสอนของพระพุทธเจ้า

มิกุนิไคโดที่อยู่ฝั่งจังหวัดกุมมะมีเส้นทางทอดยาวตั้งแต่มิกุนิโทเกะไปจนถึง ทาคาซากิ เนื่องจากการพัฒนาเมือง ทำให้บรรยากาศเก่า ๆ บางส่วนของถนนหายไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งบริเวณที่ใกล้กับเมืองใหญ่ จุดที่สวยงามที่สุดคือส่วนที่ผ่าน มินาคามิ สำหรับการเดินป่าแบบสองวันจะเริ่มต้นจากมิกุนิโทเกะ หรือเมืองพักแรมนางาอิจูกุ มุ่งหน้าไปยังทาคุมิโนะซาโตะโดยพักค้างคืนที่โฮชิอนเซ็น ในวันที่สอง เดินทางไปตามถนนสายรองผ่านซารุงะเคียวจูกุและสิ้นสุดที่ทาคุมิโนะซาโตะ เส้นทางนี้ผ่านเส้นทางเดินป่าที่ไม่ได้ปูพื้นและถนนชนบท เหมาะสำหรับผู้ที่มีร่างกายแข็งแรง

เพิ่มความผจญภัยให้กับการเดินป่าของคุณด้วยประสบการณ์กลางแจ้งที่ตื่นเต้นเร้าใจในมินาคามิ ลองเล่นกิจกรรมตามฤดูกาลตั้งแต่ การเล่นสกี ลงจากเนินเขาที่ปกคลุมด้วยหิมะ กระโดดบันจีจัมป์ ที่ซารุงะเคียวและหุบเขาซุวะ ล่องแก่งน้ำเชี่ยว ในแม่น้ำโทเนะ และ แคนยอนนิง ในพื้นที่มินาคามิ

ฟาร์มหลายแห่งในพื้นที่มีกิจกรรม เก็บผลไม้ ในหลายช่วงเวลาของปี คุณสามารถเก็บเชอร์รี บลูเบอร์รี ลูกพลัม องุ่น แอปเปิล และสตรอว์เบอร์รีได้ สามารถพบสวนผลไม้และฟาร์มสตรอว์เบอร์รีได้หลายแห่งใกล้กับทาคุมิโนะซาโตะ